วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563

แหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร (แหวนกันโรค-กันมะเร็ง)




แหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร (แหวนกันโรค-กันมะเร็ง) ปี 2558 พระครูเกษมวรกิจ (วิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม เชียงราย
แหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร เป็นแหวนที่สร้างมาเพื่อการป้องกันและรักษาโรคโดยเฉพาะ อีกทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มภัย และเป็นโภคทรัพย์ด้วย
ด้านข้างแหวน เป็นรูปพญานาค 7 ตน เกี้ยวกันอยู่ เพื่อสื่อถึงความหมายของบทสวดโพชฌงคปริตร (โพชฌงค์ 7 ประการ)
ชั้นกลาง เป็นพญาเต่าเรือน แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของขนาดแหวนจึงได้แต่เพียงโครงรูปเท่านั้น
ชั้นในสุด
- ด้านหนึ่งเป็นหม้อน้ำพระพุทธมนต์พร้อมพระไภษัชคุรุพุทธเจ้า
ด้านหลังประทับด้วยยันต์กันโรค “ นะมะพะธะ สัพพะโรคาวินาศสันติ ”และ “ นะสำเร็จ ”ของ อ.ธรรมนูญ บุญธรรม
- ด้านหนึ่งเป็นพัด ซ่อนเคล็ดวิชาพัดโบกพระสิวลีเอาไว้
ด้านหลังประทับด้วยยันต์หัวใจเศรษฐี(ยันต์ครู) “ นะมีมา นะชาลีติ ” ของ ลพ.วิชัย เขมิโย
ส่วนบนของแหวน ประกอบด้วยเพกาสำหรับยึดหัวแหวน 7 กลีบ แต่ละกลีบมีพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ เพื่อคุ้มครองรักษาเรือนชะตาผู้ที่เกิดทั้ง 7 วัน และด้านหลังแต่ละกลีบจะมีอักขระหัวใจพระปริตร “ สะยะสะปะยะอะจะ ”กำกับอยู่ด้านหลัง
ถัดลงมาเป็นจักรแก้วพระพุทธเจ้ามีใบจักร 16 ใบ ลงด้วยอักขระหัวใจพระคาถาพระเจ้า 16 พระองค์ “ นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง ”
ใต้หัวแหวน มีอักขระตัว “ นะ ” อยู่ ถัดขึ้นมาตรงแท่นที่วางหัวหยก เป็นพระคาถาหัวใจโพชฌงคปริตร “ สะธะวิปิปะสะอุ ” ล้อมรอบท้องแหวนด้านใน มีธรรมจักร หัวใจโพชฌงคปริตร และลายเซ็นต์ของ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย อยู่

ชนวนโลหะเพื่อให้แหวนนี้ทรงอานุภาพสูงสุดจึงได้จัดหามวลสารพิเศษเฉพาะเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยเน้นมวลสารที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคเป็นหลัก
โดยชนวนหลักเป็นชนวนเก่าของแหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคลที่เหลืออยู่ประมาณ 25 กก. และชนวนใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคอีกประมาณ 20 กก. โดยเฉพาะเหรียญบาตรน้ำมนต์ของครูบาอาจารย์ต่างๆ กว่า 108 รูป

มวลสารบรรจุในแหวน เป็นมวลสารเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคภัยโดยเฉพาะ ทั้งผงพุทธคุณของครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ ผงว่านยาต่างๆ ผงยาวาสนาจินดามณี ผงยาคุณพระต่างๆ เขี้ยว งา เขาสัตว์บด ผงธูปที่บูชาพระพุทธรูปที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคจากสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะ ผงอิทธิเจ กรุวัดสัมฤทธิ์ ลพบุรี ที่มีอานุภาพทางถอดถอนคุณไสยและรักษาโรค
ตัวเรือนแหวนและหัวหยก ได้รับการอธิษฐานจิตเดี่ยวโดย
1. ลพ.วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม เชียงราย ท่านอธิษฐานจิตให้ทั้งคืนในวันที่ 29 ธันวาคม 2557 ตอนเช้ามาท่านบอกว่าแหวนท่านทำให้เต็มที่แล้ว
2. ลป.สุพีร์ วัดถ้ำซับมืด นครราชสีมา เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2557
3. ลป.สุจินต์ วัดหนองน้ำเขียว ตาก เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2557
4. ลป.ฮก วัดมาบลำบิด ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2557
5. ลป.บุญ วัดทุ่งเหียง ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2557
6. พ่อท่านผอม ถาวโร บ้านสามิธรรม ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2557
7. ลป.เล็ก วัดทำนบ อ่างทอง เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
ท่านเมตตาเสกให้ 2 รอบ โดยรอบแรกได้กราบเรียนท่านว่าเป็นแหวนป้องกันโรค กันภัย และเมตตาโชคลาภ
ซึ่งเมื่อท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้เสร็จแล้ว จึงได้กราบขอให้ท่านเจริญบทโพชฌงคปริตรให้สักจบ ท่านจึงได้เมตตาเสกให้อีกรอบหนึ่งด้วยบทโพชฌงคปริตร
8. ลป.หา (ลป.ไดโนเสาร์) วัดสักกะวัน กาฬสินธุ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
9. ลพ.สมบูรณ์ วัดหงษ์รัตนาราม กทม. เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
10. ลพ.มานิตย์ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) กทม. เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558
11. หลวงพี่อ้วน วัดสะแก อยุธยา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2558 ท่านชมว่าแหวนดีมาก ขึ้นแรงและเร็ว
12. ลพ.สมคิด สำนักสงฆ์พุหวาย ราชบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2558
13. ลพ.เขียน วัดโบสถ์ ราชบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2558

พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ลพบุรี ในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558
โดย ลพ.วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม เชียงาย อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
คณะสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์และพระปริตรต่างๆ ที่มีอานุภาพทางรักษาโรคภัย เช่น ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร รัตนสูตร กรณียเมตตสูตร อุนหิสสวิชัย โพชฌงคปริตร ขันธปริตร โอสถปริตร (สักกัตวา) ฯลฯ รวมระยะเวลาเกือบ 2 ชม.

หลังเสร็จพิธีการ หลวงพ่อได้ประกาศในท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่า
...พิธีนี้ครบถ้วน สมบูรณ์ดี ขลังมากๆ แหวนนี้ให้เก็บบูชากันไว้เน้อ ดีมากๆ ต่อไปจะหากัน... แล้วท่านก็เมตตาเล่าให้หมู่สงฆ์และคนที่มาร่วมพิธีฟังถึงความเป็นมาของการสร้างแหวนกันมะเร็งนี้ และท่านบอกว่า....พิธีครั้งนี้ดีมากๆ เทวดามากันเยอะ พระอินทร์นี่ท่านมาก่อนใครเพื่อนเลย และก็พระพิฆเนศ ร.๑ ร.๒ ก็มา แล้วท่านก็บุ้ยไปทางรูปปั้นของอดีตเจ้าอาวาสของวัดถ้ำตะโกที่อยู่ในพระอุโบสถทั้ง 2 รูป ว่าท่านทั้ง ๒ ก็มา (ลป.เภา และ ลป.ชั้ว) ลพ.โอภาสีก็มา แต่ที่เห็นชัดสุดและมาเป็นองค์สุดท้ายเป็นนางฟ้าใส่ชุดสาหรีเหมือนแขกแต่เป็นผ้าเหลือบมุก สวยมากเหาะลอยลงมาเลย...

ได้กราบเรียนถามท่านเรื่องกันมะเร็ง ท่านว่า…ขึ้นอยู่กับศรัทธา ถ้าศรัทธามี จิตมันก็มีพลัง คนจะหายหรือไม่หายก็ด้วยบารมีพระพุทธเจ้า ถ้าเขาศรัทธา มีความเชื่อจริง มันก็หายได้….
หมายเหตุ ท่านไม่ได้รับรองว่าทุกคนที่เป็นจะต้องหายทั้งหมด แต่เรื่องกันไม่ให้เป็นนี่ท่านรับรองแต่ต้องใสไว้ตลอด ท่านว่าหยกเขามีคุณสมบัติปรับธาตุในร่างกายให้สมดุลแข็งแรง ถ้ามีโรคภัยในตัวหยกเขาจะดูดออกแล้วสีของหยกจะเข้มขึ้น แหวนท่านไม่มีเคล็ดอะไร ท่านบอกให้อธิษฐานเอา

พระผงกรรมฐาน หลวงปู่ดู่ ป้องกันโรคต่างๆ และอาจรวมถึงโรคระบาดใหม่ๆ

พระผงจักรพรรดิ กับภัยพิบัติ

ส่วนผสมในมวลสารของเนื้อพระผงจักรพรรดิ ประกอบด้วยผงจักพรรดิของหลวงปู่ดู่ที่หลวงตาม้า(พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร) วัดถ้ำเมืองนะ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่ดู่โดยตรง การสร้างพระเครื่องของหลวงตาม้านั้น ท่านจะนำมวลสารต่างๆของหลวงปู่ดู่มาผสมรวมกับปูนซีเมนต์ขาวและน้ำมนต์จักรพรรดิ จากนั้นจึงนำไปกดพิมพ์ออกมา แล้วนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิ ท่านสร้างพระทุกวัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ
การที่หลวงปู่ดู่สร้างหรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า ยังมีบุคคลจำนวนมากที่ขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และเนื่องเพราะศิษย์หรือบุคคลนั้นมีจิตใจทั้งที่ใฝ่ธรรมล้วนๆ กับที่ยังต้องอิงกับวัตถุมงคลอยู่ ท่านเคยพูดว่า "ติดวัตถุมงคล ยังดีกว่าที่จะไปติดวัตถุอัปมงคล" อย่างน้อยก็ดึงให้ใจเขาติดอยู่กับพระเครื่อง ให้เห็นพระทุกวัน ก็เป็นพุทธานุสติ ใจเขาก็เป็นบุญ ดีกว่าปล่อยให้ใจเขาไปติดอยู่กับเหล้ายา กิเลสสิ่งที่ไม่ดีอื่นๆ

คุณลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า นั่นคือการเกิดพระธรรมธาตุขึ้นที่องค์พระ ยิ่งผู้บูชานำพระผงไปกำขณะทำสมาธิ ที่องค์พระก็ยิ่งเกิดพระธรรมธาตุเสด็จมาเกาะมากมาย จนบางครั้งทำให้ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดความคมชัดขององค์พระได้เลย พระธรรมธาตุที่เสด็จมานี้ บ้างก็เป็นเกศาเสด็จ บ้างก็เป็นพระธาตุเสด็จ พระธาตุนี้เมื่อแรกเสด็จมาจะมีขนาดเม็ดเล็กๆ หลังจากนั้นขนาดของเม็ดพระธาตุจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

และเป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ว่าพระของหลวงปู่หลวงตา ดิ้นได้ ยิ้มได้ พูดได้ทุกองค์ ทั้งนี้เป็นเพราะ เวลาที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ท่านจะอาราธนารวมกำลังบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระโพธิสัตว์ทั้งปวง เทพพรหมทั่วสามแดนโลกธาตุ ตลอดถึงบุญบารมีของท่าน ทั้งหมดนี้ให้มารวมกำลังกันเป็นกระแสพลังเหนือพลัง ผ่านพระคาถามหาจักรพรรดิลงสู่พระเครื่องทุกองค์ นอกจากนี้ ยังได้รับการอธิฐานจิตปลุกเสกด้วยวิชา "ภูติพระพุทธเจ้า" ซึ่งเป็นวิชาพิเศษในสายหลวงปู่ดู่นั่นเอง

หลายคนมีความสงสัยว่า ทำไมพระที่หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าสร้าง บังเกิดความอัศจรรย์อย่างนี้ หลวงตาบอกว่า อยู่ที่วิธีการปลุกเสก และกำลังที่อัญเชิญมา พุทธคุณขององค์พระนี้ ท่าน บอกว่าเป็นกำลังของพระรัตนตรัย รวมกับพระจักรพรรดิ และพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีกำลังบารมี รวมของหลวงปู่ทวด ของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด

จึงมีพุทธคุณ และกำลังบารมี 10 เข้มข้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านกุศลได้ทุกประการตามแต่จะอธิษฐาน หากนำไปบูชาก็จะทำให้ภพภูมิเทวดา ผีสาง สัมภเวสีที่ผ่านไปมาได้รับกระแสนี้เข้าไปปรับให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

พระผงกรรมฐานนี้ สามารถป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ แม้กระทั่งโรคเอดส์ โรคไข้หวัดนก รวมไปถึงโรคระบาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้

หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าใช้พระเป็น ถึงนิพพานได้เลย"

พระผงกรรมฐานเป็นพระใช้ มิใช่เป็นพระเก็บหรือสะสมไว้เฉยๆ และไม่มีกำหนดว่ารุ่นใดเป็นรุ่นใดเป็นรุ่นหนึ่งรุ่นสอง เพราะหลวงตาสร้างพระอยู่เรื่อยๆ การเก็บพระผงกรรมฐานเอาไว้เฉยๆ ไม่คล้องคอติดตัว ไม่แช่ถังน้ำในบ้านเพื่อทำน้ำมนตร์ ไม่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิส่งวิญญาณ ถือว่าเสียประโยชน์เปล่า

วิธีการใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการสวดมนต์

การใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการสวดมนตร์ โดยกำพระผงนี้ไว้ขณะสวดมนตร์ ไม่ว่าจะเป็นบทระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก็ดี บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ดี หรือบทสัพเพฯก็ดี เป็นการทำให้จิตเรามีกำลังเป็นอย่างยิ่ง อานิสงส์ที่เกิดจากการที่เราแผ่บุญออกไปนี้จะคลุมไปทั่วจักรวาล หากสามารถทำได้ ก็ควรกำพระผงนี้ ทำใจให้สบาย สวดพระคาถามหาจักรพรรดิไปเรื่อยๆ เป็นการน้อมพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเข้าสู่จิต เพื่อยกระดับจิตใจให้ละเอียดยิ่งขึ้นตามไปด้วย

วิธีการใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการภาวนา

การฝึกปฏิบัติภาวนาด้วยการกำพระผงกรรมฐานนี้ จะช่วยทำให้ผู้ที่กำองค์พระรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วกว่าการฝึกด้วยตนเองมากนัก เพราะได้กำลังจากองค์พระมาเสริมที่ดวงจิตด้วย โดยการกำพระผงกรรมฐานแล้วสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วต่อด้วยการสวดบทพระคาถาพระมหาจักรพรรดิ จากนั้นจึงทำสมาธิภาวนาในอิริยาบทที่เราถนัด กำองค์พระไว้ในมือ น้อมนึกอาราธนากำลังจากองค์พระมาที่จิต เป็นการเพิ่มกำลังจิตในการภาวนา แล้วน้อมพลังงานนี้มายังฐานที่เราใช้ในการทำสมาธิตามที่ถนัด เช่นอานาปาสติเป็นต้น


(สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลองใช้ และสัมผัสความรู้สึกที่หลวงตาเล่าให้ฟัง นับว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง และผู้ที่ได้รับแจกพระมาแล้ว อย่าได้เสียโอกาส.. ที่หลวงตาเล่าให้ฟังและจากประสพการณ์ที่ลูกหลานหลวงปู่แต่ละทุกคนได้สัมผัสมาแล้ว เป็นกำลังอันเต็มเปี่ยมที่หลวงปู่บรรจงให้การสงเคราะห์บรรดาลูกหลานทุกคน ที่ได้ประสบโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ก่อนจะบังเกิดภัยพิบัติโลกที่ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน พระผงจักรพรรดิและการปฏิบัติภาวนาในแนวทางหลวงปู่ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยท่านได้ )


ขอแนะนำให้สวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ และกำหนดนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ หลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ก็ได้ กำหนดนิมิตนี้เบาๆ พร้อมกับกานภาวนาคำบริกรรม เมื่อทำได้คืบหน้าแล้วจะรู้ที่จิตเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้สามารถสัมผัสโลกทิพย์ อันจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้เราเข้าใจความจริงของธรรมชาติได้ และหากจิตเราสบายๆ องค์พระในมือจะดิ้นได้

การใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค

นำพระที่เลี่ยมแล้วหรือยังไม่เลี่ยมก็ได้ มากำสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ แล้วอธิษฐานว่า "....ขออาราธนาอัญเชิญบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม บารมีรวมพระอริยะสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภท ขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิด...." จากนั้นค่อยๆจุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ สวดบทสัพเพฯ อัญเชิญพระเข้าตัว บทอธิษฐาน
เราสามารถแช่พระผงกรรมฐานนี้ไว้ในภาชนะใส่น้ำได้ตลอด โดยไม่ต้องกังวลว่าพระจะเปื่อยหรือละลายไป(หลวงตาม้ารับรองว่า พระจักรพรรดิยิ่งแช่น้ำยิ่งแข็งแกร่ง)

(ในช่วงเกิดภัยพิบัติจะเกิดโรคระบาดติดต่ออย่างร้ายแรง ติดง่าย ตายเร็ว น้ำมนต์รักษาโรคนี้จะช่วยได้)


การอธิษฐานครอบดวงแก้วให้แก่บ้าน เพื่อป้องกันรังสี

พระผงจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่ท่านสร้างขึ้น และพระผงจักรพรรดิที่สร้างขึ้นตามสูตรของหลวงปู่ดู่นั้น สามารถนำมาอธิษฐานเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสีนิวเคลียร์ได้ทุกองค์ กับผู้ที่บูชาคล้องคอติดตัว และกับบ้านพักที่อาศัย แต่ถ้าต้องการให้คุ้มครองบ้านพักอาศัยด้วยนั้น ต้องอัญเชิญพระผงจักรพรรดิไว้ที่บ้าน 1 องค์ โดยให้อัญเชิญพระผงจักรพรรดิมาอธิษฐานทำน้ำมนต์ ในเวลา 20.30 น. เพราะต้องอาศัยกำลังใหญ่(ช่วงเวลาดังกล่าว หลวงตาม้า จะนำเทพ พรหม ร่วมสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ) โดยนำพระผงจักรพรรดิแช่ในภาชนะที่เหมาะสม เช่น ขันน้ำมนต์ และให้แช่ไว้อย่างนั้นตลอด เพื่อจะได้เป็นหัวเชื้อน้ำมนต์สำหรับใช้ในการอื่นๆ ได้ แล้วให้ตั้งจิตน้อมระลึกถึง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วกล่าวคำอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญพระบารมีรวม แห่งองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันตาขีณาสพเจ้าทั้งหลาย พระธรรม บารมีรวมแห่งพระอริยสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ท่านได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ ในการป้องกัน ขจัดทำลายรังสีและพลังงานอันไม่ดีทั้งปวง ที่เข้ามาในอาณาบริเวณเขตน้ำมนต์แห่งนี้ให้เกิดเป็นปราการแก้ว 7 ชั้น คุ้มครองทั้ง 6 ทิศ คือ เบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องซ้าย เบื้องขวา เบื้องบน และเบื้องล่าง ให้กระแสเย็นแห่งน้ำมนต์นี้จงเปล่งออกไปเป็นรัศมีเรืองรอง คุ้มครองป้องกันและครอบคลุมบ้านทั้งหลังของข้าพเจ้านี้ ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนี้จงร่มเย็น ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด” จากนั้นให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้นำน้ำมนต์ไปรดรอบๆ บ้าน แล้วตั้งภาชนะใส่น้ำมนต์ที่มีพระผงจักรพรรดิแช่อยู่ไว้ในที่อันควร หมั่นเติมน้ำอย่าให้แห้ง น้ำมนต์นี้ใช้ได้ทั้งกินและอาบ

การครอบวิมาน

เป็นการส่งกำลังบุญไปยัง มนุษย์ หรือสัตว์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้เขามีจิตใจดีขึ้นและป้องกันภัยที่มองไม่เห็นต่างๆ และถ้าใช้กับคนหรือสัตว์ที่กำลังจะสิ้นลมนั้นในยามที่จิตออกจากร่างนั้น ก็จะเห็นวิมาน และบารมีพระท่านจะเกิดนิมิตเป็นแสงสว่างนำทางผู้นั้นไปสู่สุคติภูมิตามกำลังบุญที่ได้ทำไว้ การครอบวิมานนี้ สามารถครอบให้ได้กับตนเอง และผู้อื่น โดยการครอบให้กับตนเองนั้นก็ด้วยวิธีการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ ส่วนการครอบให้ผู้อื่นนั้นทำได้โดยการอธิษฐานขอบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด แล้วให้นิมิตภาพหลวงปู่ดู่ซ้อนไปยังบุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มคน โดยในขณะที่กำลังอธิษฐานจิตอยู่นั้น ผู้อธิษฐานต้องมีจิตเมตตากรุณาจึงจะเกิดผลอย่างสูงสุด

การใช้พระผงจักรพรรดิในการภาวนา(ฝึกจิต)

ให้นำพระผงจักรพรรดิมากำไว้ในมือ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น ให้เริ่มด้วยการสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ เสร็จแล้วให้อธิษฐานว่า “.....ข้าพเจ้า...(นาม)....ขออาราธนาบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสนสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต ให้สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุผล อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ในทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ และเมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และสามารถพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆ ประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด” แล้วให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้เริ่มทำสมาธิได้ตามแบบที่ถนัด เช่น อานาปานสติ จะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” หรือ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” หรือ “ยุบหนอ พองหนอ” หรือจะใช้บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ได้ แต่หลวงตาม้าท่านแนะนำให้ใช้บทพระคาถามหาจักรพรรดิ เพราะว่ามีกำลังมาก แล้วก็ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ(พระมหาจักรพรรดิ) หรือหลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ ก็ได้ แต่บางท่านก็กำหนดเป็นภาพพระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือ ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเบาๆ ไม่ต้องเกร็งหรือเพ่งเกินไป พร้อมกับภาวนาไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ นิ่งเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำให้สามารถสัมผัสกับโลกทิพย์ได้ และในบางครั้งองค์พระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือนั้นจะดิ้นได้

การแผ่ส่วนบุญปรับภพภูมิ

กำพระผงจักรพรรดิไว้ในมือ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอได้โปรดส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิดวงวิญญาณของ(เอ่ยชื่อ หรือกล่าวโดยรวมคือดวงวิญญาณทั้งหลายที่สถิตอยู่ในบริเวณสถานที่แห่งนี้) ให้ไปสู่สุคติด้วยเถิด” สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ)

(ในช่วงเกิดภัยพิบัติผู้คนจะล้มตายเป็นจำนวนมาก มีจิตวิญญาณที่ต้องทนทุกข์ทรมาน รอการช่วยเหลือมากมาย ศาสตร์ของหลวงปู่ดู่จะช่วยปรับภพภูมิวิญญาณได้เป็นอย่างดี)


เครดิต :  พระผงกรรมฐาน

คาถากันสารพิษ เชื้อโรค โดยครูบาบุญชุ่ม




คาถากันสารพิษ เชื้อโรค
ก่อนที่ ครูบาบุญชุ่ม จะเข้าถ้ำ 1 ปี มาแล้ว
ท่านบอกว่า ให้สวดคาถานี้ เพื่อป้องกันเชื้อโรค
ท่านมองเห็นล่วงหน้าแล้ว ตั้งแต่ ปลายปี 2562

คาถาครูบาบุญชุ่ม

คาถาป้องกันสารพิษ ป้องกันเชื้อโรค สารพิษ สารเคมี ปรมาณู ภัยอันตรายทุกอย่าง

“ ทะสะขะ สะมังวิสาตุ

ทะสะขะ สะมังวิสาตุ
ทะสะขะ สมังวิสาตุ ”

โดย พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร... อรัญวาสีภิกขุ


เครดิต : คาถากันสารพิษ เชื้อโรค

คาถากันโรคภัยไข้เจ็บ (บทสักกัตวา)

เข้าสู่ยุคของการล้างโลก เมื่อนานหลายปีก่อน หลวงปู่รูปหนึ่ง เตือนตั้งแต่ก่อนเกิดสึนามิ อีกท่านเตือนเรื่อง เวลาหรือลักษณะที่มีการเคี่ยวงวด เหมือนเอาคนบางส่วนกลับ
บางสิ่งบางอย่าง พูดไปคนก็ไม่ค่อยเชื่อ ต้องรอให้มันเกิดเอง เห็นเอง ประสบเอง
ตัวเลขที่พอรู้คร่าวๆ ว่า เขาจะเอากลับไปเท่าไร ก็อาจพอรู้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำมาพูด การหยั่งรู้นั้นมีอยู่จริง เหมือนคนที่มีตาทิพย์ สามารถเห็นวิญญาณได้
เมื่อยังมีชีวิต การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การใส่หน้ากากอนามัย, การอยู่บ้านให้มากที่สุด, พบเจอผู้คนให้น้อยที่สุด, ใช้แอลกอฮอล์หรือเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ สิ่งของ เงินธนบัตร/เหรียญ, การทานฟ้าทะลายโจร + วิตามินซี เพื่อยับยั้งและเสริมภูมิต้านทาน, การสวดมนต์ และอื่นๆ

คาถากันโรคภัยไข้เจ็บ (บทสักกัตวา)

(ตั้งนะโม 3 จบ)

สักกัตวา พุทธะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
หิตัง เทวะมะนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เมฯ

สักกัตวา ธัมมะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
ปิริฬาหูปะสะมะนัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เมฯ

สักกัตวา สังฆะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุ ปัททะวา สัพเพ ภะยา วูปะสะเมนตุ เมฯ

(ผู้ใดหมั่นสวดพระคาถานี้ และใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท จะระงับโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งอายุก็จะยืนยาว ใช่เสกยากินแก้โรคก็ได้ และถ้าหากผู้ใดสวดเจริญอยู่เป็นนิจ นอกจากจะปราศจากโรคภัยไข้เจ็บรบกวนแล้ว ยังแคล้วคลาดจากภัยต่างๆ อีกด้วย)